เสื้อชูชีพสำหรับกรณีฉุกเฉินกลางทะเล

หลา...

เสื้อชูชีพสำหรับกรณีฉุกเฉินกลางทะเล

หลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกับเสื้อชูชีพแบบที่เราเห็นกันคุ้นตาเช่น บนเรือข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เรือด่วน หรือเวลาที่เราไปเที่ยวตามหมู่เกาะต่างๆ ที่เป็นเสื้อแจคเกตแบบมีตัวล็อคง่ายๆที่เราเห็นๆกัน แต่รู้ไหมครับว่าจริงๆแล้ว แค่เรื่องของเสื้อชูชีพเอาจริงๆมันก็มีมาตรฐานของมันเช่นเดียวกัน โดยการทำงานในทะเลนั้นเสื้อชูชีพจะต้องผ่านมาตรฐาน Safety of Life at Sea (SOLAS) ซึ่งผมคิดว่ามีความแตกต่างจากเสื้อชูชีพตามเรือที่เราคุ้นเคยพอสมควร (เสื้อชูชีพแบบที่เราคุ้นเคยน่าจะไม่ผ่านมาตรฐานสำหรับการทำงานในทะเล) เช่น

• เสื้อชูชีพนี้จะต้องสามารถทำให้เราลอยตัวได้ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง (โดยอนุญาตให้ลมรั่วออกไปได้ไม่เกิน 5%)

• เสื้อชูชีพตัวนี้ต้องออกแบบให้เรา ถ้ากระโดดออกมาจากที่สูงอย่างน้อย 4.5 เมตร แล้วเสื้อยังคงอยู่ในสภาพปกติหลังลงมาถึงน้ำ เช่น ไม่ใช่โดดลงมาจากที่สูง 5 เมตร ถึงผิวน้ำกระแทกแล้วเสื้อขาดเกิดรูน้ำเข้า แบบนี้ไม่ได้

• เสื้อชูชีพตัวนี้ ต้องใส่ได้วิธีเดียว ไม่สร้างความสับสนในการใส่ (เช่น ออกแบบให้ใส่ได้หลายวิธี) จนทำให้ในเวลาฉุกเฉินมายืนงงว่าใส่แบบไหนถึงจะถูก

• เสื้อชูชีพตัวนี้ ต้องสามารถใส่ได้ด้วยตัวคนเดียวภายในเวลาน้อยกว่า 1 นาที หรือต้องทำให้ง่ายที่สุดเท่าที่คนไม่เคยใส่มาก่อนยังสามารถใส่ได้เอง

• เสื้อชูชีพตัวนี้ต้องไม่เป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ไฟลามมากขึ้น

• ต้องมีนกหวีดติดกับเสื้อ

• เสื้อชูชีพต้องมีตัวที่พักคอให้เราสามารถลอยน้ำได้แม้กระทั่งตอนที่เราเมื่อยหรือหมดสติ โดยต้องทำให้หัวของเราอยู่เหนือน้ำอย่างน้อย 12 ซม. และมีมุมองศาการพักคอไม่น้อยกว่า 20 องศา (เทียบกับแนวตั้งฉากของศีรษะเรา)

• เสื้อตัวนี้ ต้องออกแบบให้สามารถพลิกร่างกายมาเป็นท่าหงายหน้ามองฟ้าได้โดยอัตโนมัติแม้แต่กระทั่งผู้สวมใส่ที่กำลังหมดสติอยู่ (พูดง่ายๆคือ หน้าเราจะไม่มีวันจมถ้าใส่เสื้อชูชีพตัวนี้ต่อให้เราหมดแรงแล้วก็ตาม)

• ที่สำคัญคือ มันต้องไม่เทอะทะจนขัดขวางการว่ายน้ำหรือการเคลื่อนไหวของร่างกาย ในกรณีที่เราได้รับการช่วยเหลือหรือจำเป็นต้องว่ายน้ำในระยะสั้นๆ

เป็นไงบ้างครับสำหรับเรื่องของเสื้อชูชีพในการทำงานออฟชอร์ เรียกว่าเปลี่ยนมุมมองของเสื้อชูชีพของผมตั้งแต่เกิดมาจนไม่เหมือนเดิมอีกเลยครับ

---